วันอังคารที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2551

เรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยการตะโกน

สวัสดีค่ะ หลังจากโอลิมปิค ปิดฉากลง ก็ชวนให้นึกถึงการสอนภาษาอังกฤษแบบหนึ่งขึ้นมาได้ วันนี้เลยมีวิธีการสอนภาษาอังกฤษแบบจีนมาฝากนะคะ
...........
ตอนนี้เป็นเวลาเรียน ภาษาอังกฤษ สไตล์มิสเตอร์หลี หยาง....."no pain no gain" มิสเตอร์หลี ตะโกนดังลั่น กลางชั้นเรียน ที่มี นักเรียนร่วม ๒,๐๐๐ คน ในโรงเรียนแห่งหนึ่ง....."เอ้า ตะโกนพร้อมกัน... no pain no gain".....นักเรียนในชั้น ต่างตะโกนเสียงดัง กระหึ่มไปทั้งห้อง....."ดังขึ้นอีก ดังขึ้นอีก" มิสเตอร์หลี ตะโกนแข่งกับนักเรียน........ขอต้อนรับสู่วิธีสอนภาษาอังกฤษแบบใหม่ สไตล์มิสเตอร์หลี ซึ่งเป็นวิธีการสอน ภาษาอังกฤษ ที่กำลังมาแรงที่สุด ในประเทศจีน.....เป็นเวลาสามปีมาแล้วที่ มิสเตอร์หลี เปิดคอร์ส สอนภาษาอังกฤษ โดยการตะโกน มิสเตอร์หลี สอนลูกศิษย์มาแล้ว ถึง ๑๔ ล้านคน ตั้งแต่ในโรงเรียน บริษัทต่าง ๆ ไปจนถึง ในกองทัพปลดแอกประชาชนจีน
.....เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบใหม่นั้น ไม่มีอะไรซับซ้อน เริ่มจาก ให้นักเรียน ฟังวลีภาษาอังกฤษ ที่น่าสนใจ และบังคับให้ ตะโกน วลีนั้นออกมา เมื่อตะโกนบ่อย ๆ เข้า ความอึดอัดของคน ที่ต้องเรียน ภาษา ที่ไม่ใช่ภาษาแม่ตัวเอง ก็ถูกปลดปล่อยออกมา และเริ่มคุ้นกับ ภาษาอังกฤษไปเอง....."เคล็ดลับอีกอย่างก็คือ เวลาที่ตะโกนเป็นภาษาอังกฤษนั้น คุณต้องตั้งใจ และใช้สมาธิมาก ตะโกนบ่อย ๆ คุณจะพูดภาษาอังกฤษ คล่องขึ้น " มิสเตอร์หลี ให้คำอธิบาย.....ในขณะเดียวกัน เนื้อหาของการสอนนั้น ก็ต้องน่าสนใจ มิสเตอร์หลีเชื่อว่า หากเนื้อหาที่สอน เป็นเรื่องของ ชาตินิยมแล้ว จะมีพลังดึงดูด ให้คนสนใจ ภาษาอังกฤษ มากขึ้น....."เมื่อเรารู้ภาษาอังกฤษ เราสามารถนำเทคโนโลยี จากเมืองนอก มาสร้างประเทศ ให้เจริญได้"....."จีนมีวัฒนธรรมการกินอาหารชั้นสูง แต่ทำไม โลกจึงรู้จักเพียง โคคา โคล่า และแม็กโดนัลด์ ดังนั้น เป็นหน้าที่ ของคนจีน ที่ต้องรู้ ภาษาอังกฤษ เพื่อจะถ่ายทอด วัฒนธรรมการกิน ไปสู่คนตะวันตกให้ได้" มิสเตอร์หลี พูดปลุกระดมนักเรียน....."ข้าพเจ้าชอบไอเดีย การให้นักเรียนพูดอังกฤษ ด้วยเสียงดัง ๆ มันสนุกดี และชวนติดตามค่ะ" ฟาน จิง นักเรียนไฮสกูล ในปักกิ่ง แสดงความเห็น และบอกว่า หลังจากเรียนกับ มิสเตอร์หลีแล้ว ทำให้เขา กล้าพูดกับฝรั่ง มากขึ้น.....มิสเตอร์หลีเล่าความหลัง เมื่อครั้งเป็นเด็กว่า เขาอ่อน ภาษาอังกฤษ มาก จนแม่ต้องดุด่า ทำให้เขารู้สึก อึดอัดทุกครั้ง ที่เรียนวิชานี้ เวลาพูด ลิ้นก็แข็ง พูดไม่ชัด เขาไม่เคยชอบ ภาษาอังกฤษเลย จนกระทั่งวันหนึ่ง ได้ตะโกนออกมา เป็นภาษาอังกฤษ ความอึดอัดก็คลายลง
.....หลังจากนั้น เขาก็วิ่งไปรอบโรงเรียน พลางตะโกน บทเรียน ภาษาอังกฤษ บางครั้ง ก็ปีนขึ้นไป ตะโกนบนหลังคาตึก เขารู้สึกว่า ภาษาอังกฤษ ของตัวเอง ดีขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวันนี้ เขาสามารถขายหนังสือ ขายเทป และเป็นวิทยากร สอนนักเรียนทั่วประเทศ ให้เรียนภาษาอังกฤษ ด้วยการตะโกน จนเขยิบฐานะเข้าขั้น เศรษฐีคนหนึ่ง.....แต่ไม่ได้หมายความว่า คนจีน จะสนใจวิธีการนี้กันหมด.....ในปี ๒๕๓๙ คณะครูสอนภาษาอังกฤษ ในเมืองทางตอนใต้ ของมณฑลกวางตุ้ง ได้รวมตัวกัน คัดค้าน วิธีการสอน สไตล์มิสเตอร์หลี และแฉว่า มีนักเรียน แอบอ่าน ตำราภาษาอังกฤษ ของมิสเตอร์หลี ในวิชาภาษาอังกฤษ ของครูคนอื่น....."เป็นการสะท้อนว่า วิธีสอนของผม น่าสนใจกว่า และสนุกกว่าวิธีเดิม ๆ ของครูในโรงเรียน" มิสเตอร์หลีโต้.....ปัญหา ที่ทำให้นักเรียน ไม่เก่งภาษาอังกฤษ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ ครูภาษาอังกฤษ มักจะสอน ไวยากรณ์ และการเขียน เพื่อใช้สอบ มากกว่า ฝึกให้นักเรียน พูดภาษาอังกฤษเป็น.....ภาษาอังกฤษ ง่ายนิดเดียว... ด้วยการตะโกน สไตล์มิสเตอร์หลี ดังนี้แล
......ลองสอนนักเรียนแบบตะโกนดูนะคะ ส่วนตัวดิฉันทำแล้ว นักเรียนชั้น ม.ต้น โดยเฉพาะ ม.1 ได้ผลดีมากเลย

วันอังคารที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2551

หมวดที่ 4: :::::: หมวด website เกี่ยวกับเรื่องอื่นๆทั่วไป ::::::

หมวดที่ 4: :::::: หมวด website เกี่ยวกับเรื่องอื่นๆทั่วไป ::::::

>>>> หมวด Entertainment (ดูหนัง ฟังเพลง etc.) <<<<
http://www.apple.com/trailers/ Movie Trailers http://www.obizgo.com http://hiptv.mcot.net/
http://www.nihonguru.com/ http://kikugamo.com/tvonline2.html ดูหนังกัน
http://www.imdb.com/ ทุกเรื่องเกี่ยวกับภาพยนตร์ต่างประเทศ http://katz.ws
ดาวน์โหลดโปรแกรมต่างๆ รวมทั้งเพลง และหนัง
http://www.nana-nana.net/downloads.html หนังนาน่า น่ารักดีครับ
http://www.vcdthaicenter.com/index.php vcd สำหรับชาวไทยในยุโรปค่ะ
http://www.kikugamo.com/thaionly.html ดูทีวีไทยทางเนต http://www.siamvdo.com http://www.obizgo.com
http://www.thaitv.tv ดูละครไทย
http://hiptv.mcot.net/ ดูโทรทัศน์ช่องเก้า
http://www.wangdokya.com ละครไทยทั้งใหม่และเก่าในยุโรป + เว็บร้านหนังสือไทยออนไลน์
http://www.pandora.com อยากสร้าง Radio Station ส่วนตัวให้เลือกเปิดเพลง Style ที่ตัวเองชอบ
http://www.magic1054.co.uk/player.asp อยากฟังเพลงสบายๆ เหมือน Smooth FM 105 บ้านเรา
http://www.atimemedia.com ฟังเพลงไทยออนไลน์ http://imusic.teenee.com
http://www.jukebox365.com
แนะนำเว็บฟังเพลง
http://www.ethaimusic.com/ แปลเพลงไทยเป็นภาษาอังกฤษค่ะ http://www.thespectrum.net/manga.shtml#dn เวบการ์ตูนออนไลน์ http://www.10luckastro.com
http://www.tiantek.com/
http://www.tamnanhol.com/ ดูดวงกัน
http://www.payakorn.com ดูไพ่ยิปซี
http://dungtrin.com
http://board.dserver.org/a/anothai
http://www.extrasoul.com
มีปัญหาชีวิต อกหัก รักคุด ใช้ธรรมะเยียวยาดีกว่าคะ เข้าไปได้ในเว็บต่อไปนี้คะ
http://www.shockfmonline.com/live/ ฟังเรื่องผี

>>>> หมวด Search Engine/หาข้อมูล <<<<
http://www.answers.com/ Search Engine ดีอันหนึ่ง http://www.google.com Search Engine ยักษ์ใหญ่
http://www.google.co.th/language_tools?hl=en เว็บค้นหาข้อมูลที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ http://vivisimo.it
http://vivisimo.com web ที่ค้นหาข้อมูลพร้อมจัดหมวดหมู่เสร็จสรรพ http://www.findarticles.com/
ค้นหา Articles
http://en.wikipedia.org
http://th.wikipedia.org/wiki/ Encyclopedia ทั่วไปมีทั้งภาษาไทยและอังกฤษ
http:///www.mapquest.com
http://map.yahoo.com แผนที่ http://www.mapquest.com
ค้นหาที่อยู่ หาไดเรกชั่น แผนที่ (ใช้ได้ดีในเมกา และแคนาดา) http://www.multimap.com
ค้นหาแผนที่ใช้แค่ postcode หรือที่อยู่ก็ได้
http://education.yahoo.com/reference/weights_and_measures/ เปลี่ยนหน่วยวัด
http://www.onlineconversion.com/temperature.htm เปลี่ยนค่าอุณหภูมิ

>>>> หมวดอื่นๆ <<<<
http://www.thaimed.com/obesity/exercise_calories_burned.htm
http://www.lowcarb-thailand.com/component/option,com_frontpage/Itemid,1/ ลดหุ่น
http://www.anywho.com http://www.friendster.com เว็บค้นหาเพื่อน
http://www.myspace.com ถ้ามาอเมริกา ต้องมีไว้คุยกับเพื่อนมั่ง สะดวกดี http://pandagroup.pantown.com/
เหงาๆ หาเพื่อนคุย หรือแวะอ่านอะไรเพลินๆ
http://www.bluemountain.com/
http://www.123greetings.com/
ส่งการ์ด electronic ไปให้คนรักตามเทศกาลค่ะ http://www.polyboon.com/worship/inside/worship06.html
ไหว้พระหน้าคอมพิวเตอร์ ทุกบทส่วนมนต์ ไม่ต้องพกหนังสือ
http://www.:-) แนะนำเว็บธรรมะ
คุณ thaiberbal ครับ ที่ดูใน list ให้ก็มีเรื่องทุนการศึกษาอยู่เท่านี้นะครับ:
http://europa.eu.int/comm/education/programmes/mundus/projects/index_en.html
Erasmus Mundus Master Programme (Scholarship แถบ Europe)
http://www.tpa.or.th/ http://embjp-th.org/th/jis/study.htm#17
ทุนการศึกษาของรัฐบาลญี่ปุ่น ประจำปี พ.ศ.2549 The Japanese Government (Monbukagakusho : MEXT) Scholarship for 2006
http://thaifin.blogspot.com/ สำหรับคนสนใจเรียนฟรีที่ฟินแลนด์
http://www.studyabroad.ocsc.go.th/sitemap/index.asp สารสนเทศการศึกษาต่อต่างประเทศ ของ กพ
http://www.westeasttravel.com ตั๋วเครื่องบินราคาถูก ใน UK ค่ะ
ส่วนนี่คือจัดอันดับมหาลัยในจีน: http://www.chinadaily.com.cn/english/doc/2005-02/21/content_418027.htm
มหาลัยภาษาวัฒนธรรมปักกิ่งที่คนต่างชาตินิยมไปเรียนมากที่สุดในประเทศจีน: http://www.blcu.edu.cn/index.asp
( แต่อันนี้เวปแปลภาษาจีนเป็นอังกฤษ และได้อีกหลายภาษามากๆ http://babelfish.yahoo.com/
http://www.google.co.th/language_tools?hl=en
เว็บอาหาร http://www.kruaklaibaan.com/forum/index.php

หมวดที่ 3: :::::: หมวด website เกี่ยวกับการใช้ชีวิตในต่างแดน ::::::

หมวดที่ 3: :::::: หมวด website เกี่ยวกับการใช้ชีวิตในต่างแดน ::::::
>>>> หมวดการเดินทาง <<<<
http://www.orbitz.com
http://www.expedia.com
http://www.travelocity.com
http://www.united.com
http://www.southwest.com
http://www.jetblue.com
http://www.cheapfares.com
ซื้อตั๋วเครื่องบินราคาถูก
http://www.priceline.com
http://www.cheapticket.com
เว็บตั๋วเครื่องบินราคาถูก แถมเสนอราคาที่เราต้องการได้(ใช้ได้ดีในเมกา)
http://www.ryanair.com/site/EN/ 'Super Cheap' flights in Europe
http://www.attitudetravel.com/lowcostairlines/europe/#map
Low cost airlines in Europe
http://www.whichbudget.com/ Cheap flights around the world
http://www.seatguru.com แผนที่นั่งของสายการบินต่างๆ
http://www.narita-airport.jp/en/access/train/index.html เดินทางไปสนามบินนาริตะ
http://www.airportthai.co.th/ แอร์พอร์ตไทย http://www.tfl.gov.uk การเดินทางในลอนดอน
http://www.nationalrail.co.uk/ เดินทางโดยรถไฟ-ไปเที่ยวไหนดีน้า (uk)
http://www.bbc.co.uk/weather/5day.shtml?world=9&links เช็คอากาศกันหน่อย จะได้ไม่ออกไปเก็อ (uk)
http://www.travelodge.co.uk/ โรงแรมคุณภาพดีแต่ราคาย่อมเยา http://www.hostelworld.com/
Cheap and good hostels (determined by rating) http://www.laterooms.com หาที่พักด่วน
http://www.jpinn.com/ http://www.japaneseguesthouses.com/index.htm
http://travel.rakuten.co.jp/en/index.html จองโรงแรมแบบญี่ปุ่น http://www.bahn.de
Train timetable, ticket & promotion http://www.eurail.com/ Traveling by train in Europe
http://grace.hyperdia.com/cgi-english/hyperd01.cgi ทางด้วยรถไฟในญี่ปุ่น
http://www.japan-guide.com/
http://www.jnto.go.jp/eng/
http://www.jalan.netเดินทางในญี่ปุ่น (ข้อมูลท่องเที่ยว)
http://www.wmata.com สำหรับคนนั่งรถไฟและรถเมล์ใน DC
http://www.washingtonpost.com/wp-dyn/content/metro/traffic/index.html
สำหรับคนขับรถใน DC รายงานการจราจรพร้อมภาพ
http://thorntree.lonelyplanet.com/ ท่องเที่ยวแบบแบคแพ็ค

>>>> หมวดซื้อ/ขายของ <<<<
http://www.x-rates.com/d/THB/table.html เช็คกันหน่อยตอนนี้อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเป็นไงบ้าง
http://www.bangkokbank.com/Bangkok+Bank/Personal+Banking/Foreign+Exchange/FX+Rates/default.htm
อัตราแลกเงินรายวัน แบงค์กรุงเทพ
http://www.xe.com อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา
http://www.nearthai.com/default.asp เว็บสั่งของที่อยากได้จากเมืองไทย
http://www.asiacaller.com เว็บซื้อบัตรมือถือราคาถูก http://www.cnets.com Review อุปกรณ์ electronics
http://kakaku.com/ เช็คราคาเครื่องใช้ไฟฟ้า (ภาษาญี่ปุ่น)
http://carfax.com ตรวจสอบสภาพรถมือสองก่อนซื้อ
http://www.craigslist.comหาบ้าน หางาน หาแฟน ฃี้อของ ขายของ มีทุกสิ่งทุกอย่าง มีเกีอบทุกประเทศทั่วโลก แม้แต่ประเทศไทย
http://www.bcbs.com/ ซื้อประกันสุขภาพในสหรัฐฯhttp://www.techbargain.com
http://www.slickdeals.net ซิ้อของ ไฮเทคลดราคา

>>>> หมวดอาหาร <<<<
http://mcdang.comสูตรทำอาหารไทยhttp://www.malila.com/maindish.html http://blog.deedeejang.com/PintongM/
http://www.kaewdiary.com/webboard/show.php?CateID=5&No=17969
http://www.healthnet.in.th/text/forum2/food/food-new%5B1%5D.htm
http://www.9leang.com/home_made/ สูตรอาหารต่างๆ ลองทำมาแล้ว ขอบอกว่าเด็ดมาก
http://www.kruaklaibaan.com/forum/index.php เว็บอาหาร http://www.nutritiondata.com/index.html
รายละเอียดสารอาหารและพลังงานของอาหารในชีวิตประจำวัน
>>>> หมวดข่าวคราวสำหรับคนไทยในต่างแดน <<<<
http://news.thaieurope.net/ ข่าวคราวสำหรับชาวไกลบ้านแถบยุโรป http://www.thaitownusa.com
http://www.thaiontario.com http://www.thainewyork.com http://www.thaidc.com
http://yakyaipost.com
http://khonthai-nokprated.com เว็บไซด์ข่าวสารสังคมไทยในเมืองใหญ่ในสหรัฐฯ
http://www.tonphai.com สำหรับนักเรียนไทยอยู่สวีเดน http://www.thelocal.se/อ่านข่าวสวีเดนในภาษาอังกฤษ
http://groups.yahoo.com/group/Thai_in_Spain/ http://groups.yahoo.com/group/Thai_in_Spain/promote
This homepage is created for all Thai people, students and friends in Spain to be a friendly place of communicating, sharing idea, passing information and exchanging knowledge.

>>>> หมวดเอกสารสำคัญในการเดินทางทั้งหลาย <<<<
http://bangkok.usembassy.gov/services/visa/NIVChecklist.pdf
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=lovergirl&group=1 การขอวีซ่าชั่วคราว USA
http://www.mfa.go.th/web/71.php พาสปอร์ตไทย
http://www.delta.com/planning_reservations/plan_flight/international_travel_information/visa_passport_information/index.jsp
Visa and passport information http://www.thaiembassy.de/consul/18_naenum.htm คำแนะนำเรื่องการขอวีซ่าไปเยอรมัน
http://www.thailife.de/ratgeber/recht-und-gesetz/index_t.html สิทธิและกฎหมายในเยอรมัน
http://www.mfa.go.th/web/804.php เว็ปแบบฟอร์มการแปลเอกสารราชการของกระทรวงการต่างประเทศครับ
http://www.dol.go.th/guide/menu_foreigner.php ข้อมูลการเป็นเจ้าของที่ดินไทยสำหรับคนต่างด้าว
http://dmv.org สอบใบขับขี่ในสหรัฐฯ
>>>> หมวด web ขององค์กรสำคัญต่างๆ <<<<
http://www.thaiembassy.org/ สถานทูตไทยทั่วโลก (ลิงค์เว็บสถานทูต)
http://www.geocities.com/tsafl/embassy.html Directory ของสถานทูต และสถานกงสุลไทยในต่างแดน
http://www.thaiembdc.org/directry/direc_t.htm สำนักงานตัวแทนหน่วยงานต่าง ๆ ของไทยในสหรัฐฯ
http://www.thaiembassy.org.au/home.asp สถานทูตไทยออสเตรเลีย
>>>> หมวดส่งจดหมาย/ส่งพัสดุ <<<<
http://www.thailandpost.com/search_ems.asp เช็คค่าส่งของจากเมืองไทยไปทั่วโลกโดย ไปรษณีย์ไทย
http://www.usps.com/ ส่งจดหมาย ของอเมริกา http://www.thaiwebsms.com/ ส่ง SMS กลับไทย ฟรีๆ กัน
http://www.tttonline.net ส่ง sms ออนไลน์ได้

>>>> หมวดอื่นๆ <<<<
http://www.voipstunt.com โทรกลับเมืองไทยและหลายที่อื่นๆ landline ตอนนี้มีโปรโมชั่นโทรฟรีอยู่
http://www.yellowpages.co.th/specific/people_t.php เยลโล่เพจเจสไทย
http://kropla.com/electric2.htm สารพัดปลั๊กไฟทั่วโลก http://dryes.webvena.com/ พิมพ์ไทยค่ะ
http://www.timeanddate.com/worldclock/ เวลาทั่วโลก

หมวดที่ 2: :::::: หมวด website ศึกษาต่อต่างประเทศ :::::::::

หมวดที่ 2: :::::: หมวด website ศึกษาต่อต่างประเทศ :::::::::

>>>> หมวดศึกษาต่อใน Europe <<<<
http://education.guardian.co.uk/universityguide2005/0,,1455246,00.html แรงกิ้งมหาลัยใน UK ของ Guardian
http://www.hotcourses.co.uk มหาลัยไหนใน UK มีเปิดคอร์สอะไรบ้าง
http://www.ukstudentlife.com/ สภาพความเป็นอยู่ทั่วไป อ่านตอนเตรียมตัวมาเรียนที่ uk
http://www.britishcouncil.org/th/thailand British Council
http://europa.eu.int/comm/education/programmes/mundus/projects/index_en.html
Erasmus Mundus Master Programme (Scholarship)
http://thaifin.blogspot.com/ สำหรับคนสนใจเรียนฟรีที่ฟินแลนด์
http://www.studenten-wg.de/ Finding accommodation in Germany (in German)

>>>> หมวดศึกษาต่อใน North America (United States + Canada) <<<<
http://educationusa.state.gov/ ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาในอเมริกา
http://educationusa.state.gov/undergrad/pubs/iywts1.pdf
หนังสือเกี่ยวกับการสมัคร + เข้าเรียนในระดับ Undergraduate ที่อเมริกา
http://educationusa.state.gov/graduate/pubs/iywts2.pdf
หนังสือเกี่ยวกับการสมัคร + เข้าเรียนในระดับ Graduate ที่ อเมริกา
http://educationusa.state.gov/study/pubs/iywts3.pdf
หนังสือเกี่ยวกับการสมัคร + เข้าเรียนในระดับ Specialized Professional Study และ Short-term Study ใน อเมริกา
http://educationusa.state.gov/predeparture/pubs/iywts4.pdf
หนังสือเกี่ยวกับการขอวีซ่า เตรียมตัวออกเดินทาง และการใช้ชีวิตในอเมริกาในฐานะนักเรียน
http://www.tanthai.com ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับเข้าเรียนที่ America
http://www.uc411.com/ http://www.aucc.ca/index_e.html เรียนต่อแคนาดา
http://www.macleans.ca/universities/ ranking ยูในแคนาดา

>>>> หมวดศึกษาต่อใน Asia <<<<
http://www.answers.com/main/ntquery;jsessionid=160uid3ctjj1q?method=4&dsid=2222&dekey=List+of+universities+in+mainland+China&curtab=2222_1&sbid=lc05b&linktext=List%20of%20universities%20in%20mainland%20China
นี่คือ List มหาลัยทั้งหมดของประเทศจีน
http://www.chinadaily.com.cn/english/doc/2005-02/21/content_418027.htm จัดอันดับมหาลัยในจีน
http://www.answers.com/topic/2005-chinese-university-ranking จัดอันดับมหาลัยในจีนอีกอันนึง
http://www.blcu.edu.cn/index.asp มหาลัยภาษาวัฒนธรรมปักกิ่งที่คนต่างชาตินิยมไปเรียนมากที่สุดในประเทศจีน
http://www.tpa.or.th/ http://embjp-th.org/th/jis/study.htm#17 ทุนการศึกษาของรัฐบาลญี่ปุ่น ประจำปี พ.ศ.2549
The Japanese Government (Monbukagakusho : MEXT) Scholarship for 2006

>>>> หมวดข้อสอบที่จำเป็นในการเรียนต่อต่างประเทศ <<<<
http://www.english-test.net/ ข้อมูลเกี่ยวกับการเตรียมสอบ standardized test ทั้งหลาย (TOEFL, TOEIC, GMAT …)
http://www.mba.com http://www.sentencecorrection.com/ สำหรับ ผู้ที่จะสอบ GMAT
http://www.testmagic.com สำหรับ ผู้ที่จะสอบ GMAT, SAT, GRE, TOEFL
http://www.toefl.org สอบ TOEFL http://www.ielts.org/ สอบ IELTS
http://www.idp.com/thailand/ สถาบันที่จัดสอบ IELTS ในไทย IDP http://www.collegeboard.com/ สอบ SAT
>>>> หมวดอื่นๆ <<<<
http://www.studyabroad.ocsc.go.th/sitemap/index.asp สารสนเทศการศึกษาต่อต่างประเทศ ของ กพ
http://www.llm-guide.com จะเรียน LLM ที่ไหนดี http://www.businessweek.com
http://www.usnews.com ดูอันดับ business school
http://www.sparknotes.com เหมาะสำหรับหาข้อมูลทำรายงาน(โดยเฉพาะเด็ก High School)
http://www.studygs.net study guides & strategies

หมวดที่ 1 website เกี่ยวกับภาษา

หมวดที่ 1 :::::: หมวด website เกี่ยวกับภาษา ::::::
>>>> หมวด Dictionary <<<<
http://lexitron.nectec.or.th/แปลอังกฤษเป็นไทย
http://www.oup.com/oald-bin/web_getald7index1a.pl
Oxford Advanced Learner’s Dictionary
http://www.bartleby.com/61/ The American Heritage Dictionary of the English Language
http://www.ldoceonline.com/ Longman Dictionary of Contemporary English Online
http://dictionary.cambridge.org/ Cambridge Advanced Learner’s Dictionary
http://www.websters-online-dictionary.org/ Websters’ Online Dictionary
http://www.m-w.com/ Merriam-Webster Online Dictionary
http://www.urbandictionary.com/ ดิคชันนารี่ ออนไลน์
http://www.thefreedictionary.com/ online dictionary , encyclopedia and thesaurus
http://dictionary.msn.com/
This dictionary link includes audio pronunciation of the word you are looking for. The students enjoy typing in words just to hear the speaker’s pronunciation.
http://dict.longdo.org/ Longdo English-Thai, Japanese-Thai, German-Thai, French-Thai Dictionary Service
http://dict.leo.org/
German<->English dictionary
http://dict.tu-chemnitz.de/ แปลอังกฤษเป็นเยอรมัน – เยอรมันเป็นอังกฤษ
http://www.dict.cc/ แปลเยอรมัน-อังกฤษ-เยอรมัน
http://www-lexikon.nada.kth.se/skolverket/swe-eng.shtml
ภาษาสวีเดน-อังกฤษ
>>>> หมวดฝึก พูด อ่าน เขียน ภาษาอังกฤษ(และภาษาอื่นๆ) <<<<
http://www.voanews.com/specialenglish/wordmaster/index.cfm
ฝึกการฟัง/การอ่าน Voice of America
http://www.yindii.com/ยินดีดอทคอม มีแบบฝึกหัด ไฟล์เสียงสำหรับฝึกการฟัง
http://www.manythings.org/pp/
American English Pronunciation Practice: this site has excellent minimal pair “quizzes” (e.g. “hot” vs. “hat”; “lake” vs. “rake”).
http://www.aitech.ac.jp/~iteslj/links/ESL/Pronunciation/
The Internet ESL: Pronunciation: this site is actually a list of many others that include tongue twisters, contracted/reduced forms, etc.
http://www.englishclub.net/pronunciation/index.htm
English Club Pronunciation: this site contains written information about word/sentence stress, final –ed, etc.
http://www.lehigh.edu/~incent/esl/pronounce.htm
Pronunciation Tips for ESL: general tips about pronunciation, the famous poem about the craziness of English spelling/sounds.
http://www.accurateenglish.com/HTML/tips.htm
Ten Tips for Accent Reduction: short list of tips for students (rest of the site is commercial)
http://www.soundsofenglish.org/
Sounds of English: Interesting Links for English Pronunciation and ESL/EFL: good site for graphic representations of the mouth and minimal pair exercises with vowels.
http://esl.about.com/library/weekly/aa053101a.htm
A good link for sample dialogues and scripts.
http://www.faceweb.okanagan.bc.ca/pron/
This is a fun link with consonant sounds and tongue twisters. It also describes how and where you place your tongue in order to produce the sound.
http://eleaston.com/pronunciation/
American English Pronunciation (uses Real Player for minimal pairs).
http://www.spokenamericanenglish.com/
American English As It's Spoken: Contractions and shortcuts used in daily speech
http://www.btinternet.com/~ted.power/phono.html
English Language Learning Courses, Resources, Phonology & Teacher Training: this site provides common pronunciation errors in English for speakers of other languages.
http://www.britishcouncil.org/learnenglish.htm สอนภาษาอังกฤษแบบเด็กๆและโตขึ้นไป เป็นสำเนียงอังกฤษ
http://www.englishforums.com ฝึกภาษาอังกฤษก่อนไปอเมริกา
http://www.mylanguageexchange.com/ หาเพื่อนฝึกภาษา
http://www.englishbaby.com/community/chat แชทง่ายๆกะเพื่อนต่างชาติ
http://www.quizbox.com/jokes/chat.aspx แชทกะเจ้าโจอี้ แสนรู้
http://www.learningthai.com/ อยากนึกสนุกสอนภาษาไทยชาวต่างชาติ
http://www.gay.com สำหรับคุยฝึกภาษากับเจ้าของภาษาครับ ได้ทุกภาษาตั้งแต่อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน สเปน ฯ
http://www.exeter.ac.uk/german/abinitio/chap1-1.html
http://www.hfac.uh.edu/mcl/fll/Germ/ เรียนภาษาเยอรมันพื้นฐาน
http://www.kaededay.com/ สำหรับเพื่อนๆที่อยากเรียนภาษาญี่ปุ่นออนไลน์ฟรี
>>>> หมวดอื่นๆ <<<<
http://babelfish.altavista.com/ แปลภาษาหลากหลาย
http://www.worldlingo.com/en/products_services/worldlingo_translator.html
เว็บไซด์เอาไว้แปลภาษาจากภาษานึงไปอีกภาษานึง
http://www.synonym.com/synonym/ หา synonym - antonym ของคำอังกฤษ

รวม website ที่น่าสนใจ

รวม website ที่ชาวไกลบ้านแนะนำให้ค่ะหวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ
ได้รวม website ทั้งหมดที่ชาวไกลบ้าน http://www.pantip.com/ แนะนำมาและจัดแบ่งเป็นหมวดหมู่ให้ดูง่ายนะขึ้น
มี list หมวดหมู่ทั้งหมดไว้ตรงนี้เพื่อที่ให้สามารถหาสิ่งที่ต้องการได้ง่ายขึ้นนะคะ
หมวดที่ 1: :::::: หมวด website เกี่ยวกับภาษา :::::: แบ่งย่อยเป็น
- หมวด Dictionary คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย รวบรวม online dictionary มีหลายภาษา
- หมวดฝึก พูด อ่าน เขียน ภาษาอังกฤษ(และภาษาอื่นๆ)
ฝึก พูด อ่าน เขียน ภาษาต่างๆ เช่น อังกฤษ เยอรมัน ญี่ปุ่น
- หมวดอื่นๆ เว็บเกี่ยวกับภาษาอื่นๆ เช่นแปลภาษา / หา synonym, antonym
หมวดที่ 2: :::::: หมวด website ศึกษาต่อต่างประเทศ :::::: แบ่งย่อยเป็น
- หมวดศึกษาต่อใน Europe ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาใน Europe
- หมวดศึกษาต่อใน North America (United States + Canada) ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาในอเมริกาและแคนาดา
- หมวดศึกษาต่อใน Asia ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาใน Asia
- หมวดข้อสอบที่จำเป็นในการเรียนต่อต่างประเทศ ข้อมูลเกี่ยวกับการสอบเช่น TOEFL, IELTS, GMAT, GRE, SAT
- หมวดอื่นๆ ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาในประเทศอื่นๆ
หมวดที่ 3: :::::: หมวด website เกี่ยวกับการใช้ชีวิตในต่างแดน :::::: แบ่งย่อยเป็น
- หมวดการเดินทาง เรื่องจองตั๋วเครื่องบิน หาที่พัก นั่งรถไฟ หาที่เที่ยว อยู่ที่นี่
- หมวดซื้อ/ขายของ web อัตราแลกเปลี่ยนเงิน ซื้อรถ ซื้ออุปกรณ์electronics ของใช้จุกจิก ลองดูที่นี่
- หมวดอาหาร web สูตรอาหารไทยและอาหารประเทศอื่นๆ
- หมวดข่าวคราวสำหรับคนไทยในต่างแดน ข่าวคราวสำหรับคนไทยในต่างแดน
- หมวดเอกสารสำคัญในการเดินทางทั้งหลาย เรื่องการขอ Visa, ใบขับขี่ etc.
- หมวด web ขององค์กรสำคัญต่างๆ องค์กรเกี่ยวกับการเดินทางทั้งหลายเช่น สถานทูต
- หมวดส่งจดหมาย/ส่งพัสดุ ส่งจดหมาย ส่งพัสดุจากต่างชาติทำอย่างไร ดูใน web เหล่านี้
- หมวดอื่นๆ โทรกลับไทยยังไง พิมพ์ไทยอย่างไร ลองดูที่นี่
หมวดที่ 4: :::::: หมวด website เกี่ยวกับเรื่องอื่นๆทั่วไป :::::: แบ่งย่อยเป็น
- หมวด Entertainment (ดูหนัง ฟังเพลง) ดูหนัง ดูทีวีไทย ฟังวิทยุบนเน็ท ดูดวง ฟังเรืองผี รวมอยู่ที่นี่
- หมวด Search Engine/หาข้อมูล Search engine, encyclopedia, แผนที่, แปลงหน่วย ลองดู web เหล่านี้
- หมวดอื่นๆ Web อื่นๆที่ไม่เข้า category อะไรเลย

วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

10 เคล็ดลับเรียนภาษาต่างประเทศให้ได้ผล

ในโลกที่เต็มไปด้วยการแข่งขันอย่างทุกวันนี้ ภาษาที่สองและสาม สี่ (ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น ฯลฯ) คือสิ่งจำเป็นที่จะทำให้คุณดูโดดเด่น และแตกต่างจากคนอื่น และนี่คือเคล็ดลับง่าย ๆ ในการเรียนภาษาต่างประเทศให้ได้ผล

1.ยอมรับความจริง ไม่มีใครพูดภาษาที่สองได้ตั้งแต่เกิด ทุกคนต้องใช้เวลาในการเรียนรู้กันทั้งนั้น ฉะนั้นอย่าคาดหวังว่าจะต้องเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่เริ่มต้น

2.เรียนรู้ทีละนิดจากการศึกษา พบว่า การทบทวนเป็นระยะเวลาสั้นๆ อย่างเช่น ในระหว่างทานอาหารเช้า ในขณะอาบน้ำ หรือในขณะเดินทาง จะส่งผลให้คุณจดจำได้ดีกว่า

3.ท่องศัพท์ ยิ่งคุณรู้ศัพท์มากเท่าไหร่ คุณก็สามารถพูดและเข้าใจได้มากขึ้นเท่านั้น เทคนิคในการจดจำคำศัพท์ คือ พกการ์ดใบเล็กๆที่เขียนคำศัพท์ (ที่มีคำแปลอยู่ด้านหลัง) ไปกับคุณทุกที่

4.ฝึกหัดอย่างจริงจัง อย่าแค่ทำปากขมุบขมิบหรือท่องเอาไว้ใสใจ พูดหรืออ่านออกมาดังๆ ในทุกครั้งที่มีโอกาส เพื่อจะได้ฝึกปากของคุณให้เคยชินกับการออกเสียง

5.ทำการบ้านการทำการบ้าน คือการฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาให้เป็นไปอย่างแม่นยำ จนกลายเป็ความชำนาญ และสามารถทำออกมาได้อย่างอัตโนมัติในที่สุด

6. จับกลุ่มเรียน หาเวลาทบทวน ทำการบ้าน หรือแค่ฝึกพูดภาษานั้นๆ กับเพื่อนๆ เป็นประจำ ซึ่งจะช่วยแก้ไขข้อบกพร่องให้กันและกันได้ แถมยังทำคุณจดจำได้แม่นยำยิ่งขึ้นด้วย

7.หาจุดอ่อนคุณ ควรหาจุดอ่อนในการเรียนของตัวเองให้เจอ เพื่อที่จะได้เพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ อย่างเช่น ถ้าคุณเป็นคนเงียบๆ และไม่ค่อยมีส่วนร่วมในชั้นเรียน ก็บังคับตัวเองให้เลือกที่นั่งแถวหน้าในห้องเรียนซะ

8. หาโอกาสในการใช้ภาษา เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับภาษานั้นๆ ให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยกับเจ้าของภาษาเช่าหนังที่พูดภาษานั้นๆ มาดูหรือแม้กระทั่วหาแฟนที่เป็นเจ้าของภาษานั้นซะเลย

9. ทุ่มความสนใจ พูดง่ายๆ ก็คือ หายใจเข้าออกก็ให้เป็นภาษานั้น เรียนรู้ภาษานั้นๆ ทั้งในและนอกห้องเรียนอย่างจริงจังและเต็มที่ถึงขนาดถึงขนาดถ้าฝันได้ก็อาจฝันเป็นภาษานั้นๆ ด้วย

10. ปรึกษาผู้รู้ถ้ามีปัญหาหรือติดขัดอะไร ก็ต้องสอบถามครูผู้สอนหรือเจ้าของภาษานั้นทันที เพื่อทำลายกำแพงที่เป็นอุปสรรคในการเรียนออกไปให้เร็วที่สุด คุณจะได้ไม่ต้องสะดุดอยู่นานเกินไปซึ่งนั้นอาจทำให้คุณเกิดความเบื่อหน่ายได้

ขอบคุณข้อมูล : นิตยสาร Cosmopolitan

วันศุกร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2551

การจัดการความรู้ คือ อะไร

" ความรู้มีอยู่อย่างกระจัดกระจายไปทั่วแผ่นดิน ทุกแห่งทุกหนก็ว่าได้ นับวันความรู้ที่พูดถึงนี้ก็จะเลือนหาย สูญสิ้นไปเหมือนกับเจ้าของความรู้นั้นตามกาลเวลาที่ใครก็หยุดไม่ได้ "

จะทำอย่างไรหนอ ??? ที่จะเก็บความรู้นั้นไว้ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือเพื่อการเผยแพร่ไปสู่คนรุ่นหลังที่จะได้รับรู้ว่าบรรพบุรุษของตนมีคุณงามความดีอะไร

คนไทยโดยส่วนใหญ่และทั่วไปมีภูมิปัญญาดั้งเดิมมากมายที่น่าเก็บไว้ด้วยการบันทึก และเผยแพร่ความรู้นี้ไปยังผู้ที่ใฝ่รู้ใฝ่เรียน รวมทั้งอนุชนรุ่นหลังที่เกิดมากับความเจริญทางวัตถุและเทคโนโลยี ซึ่งอาจจะลืมเลือนความรู้จากธรรมชาติที่กำลังจะจางหายไปกับกาลเวลา

ผู้เขียนเป็นครู อาชีพของการเป็นครูย่อมต้องพัฒนาด้วยเรียนรู้เสริมให้ตนเองอยู่เสมอ ความรู้ที่นับได้ว่าเป็นขุมทรัพย์ก็ได้จากการอ่าน การเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง และทางอ้อม

ผู้เขียนได้เรียนรู้จากท่านศึกษานิเทศก์ เฉลิมชัย ถึงดี ศึกษานิเทศก์รูปหล่อและอัธยาสัยดี แห่งเขตพื้นที่การศึกษาสุรินทร์เขต 3 เกี่ยวกับ การจัดการความรู้ในโรงเรียน School Knowledge Management วิธีการคือ ที่โรงเรียนจัดอบรม แล้วกำหนด หัวปลาทู ก้างปลา แล้วก็มี คุณอำนวย คุณกิจ คุณลิขิต 1 คุณลิขิต 2 ( สมมุติบทบาทของสมาชิกในกลุ่ม ) วิธีการเขียน คือ การเล่าประสบการณ์ในการสอนของแต่ละคนที่ประสบกับความสำเร็จจนเป็นที่น่าพอใจ แล้วเขียนบันทึกไว้ แต่เวลาจำกัด ผู้เข้าอบรมจำนวนมาก จึงดูเหมือนว่าจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ตั้งความคาดหวังไว้

วันถัดมาอีก ผู้เขียนจึงขอร่วมฝึกทำ best practice อย่างจริงจังกับโรงเรียนบ้านบักดอก โดยความกรุณาของท่าน ผอ.สุธรรม สุบรรณาจ และท่าน ศน.เฉลิมชัย ถึงดี อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นผู้เขียนเริ่มเข้าใจและรู้ว่าการเขียน Best practice ก็ เหมือนกับการเขียนรายงานให้ผู้อ่านได้เข้าใจถึงวิธีการสอน เทคนิคและกิจกรรมต่างๆ และมีจุดมุ่งหวังที่จะเก็บความรู้นี้ไว้เป็นหลักฐานด้วย

การจัดการความรู้อันน้อยนิดของผู้เขียนได้เริ่มแพร่ขยายเป็นบันทึกลงใน blog บ้าง เล่าสู่กันฟัง แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับครูบ้าง และมีแนวความคิดจากการที่เคยไปเป็นครูเอเอฟเอส แลกเปลี่ยนที่อเมริกา 1 ปี จึงคิดว่าจะนำเรื่องราว ประสบการณ์ต่าง ๆ มาเขียนลงใน blog หากมีเวลา ซึ่งผู้เขียนได้ทำหน้าที่ครูอย่างมีความสุขและฝึกเด็กไทยให้หัดเรียนรู้ภาษาอังกฤษ

เนื่องจากผู้เขียนมีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์เล็กน้อย มีความรู้สึกว่าคอมพิวเตอร์มีประโยชน์ต่อการจัดการศึกษาอย่างมหาศาล จึงได้เข้ารับอบรมการจัดทำ web blog และได้รับความกรุณา จากท่าน ศน เฉลิมชัย ถึงดี เป็นพี่เลี้ยงที่ดีตลอดมา ทำให้ผู้เขียนเริ่มเข้าใจเรื่องของการสร้างเว็บเพจ blog และเว็บไซต์ในเวลาต่อมา ซึ่งผู้เขียนได้นำมาสอนนักเรียนให้ฝึกสร้าง web blog ของตนเอง และเรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่าน web blog ของผู้เขียน และของเพื่อนนักเรียนในห้องด้วย ทำให้นักเรียนตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษมากยิ่งขึ้น

การจัดการความรู้ที่นำมาสู่ครูผู้สอนตามความสามารถและความใฝ่รู้ใฝ่เรียน ประกอบการพัฒนาตนเองเป็นเรื่องที่ผู้เขียนตระหนักและพยายามอยู่เสมอที่จะกระตุ้นให้ตนเองมีการพัฒนาทั้งในเรื่องการจัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียน ด้วยวิธีการต่างๆนานา เช่น การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ การจัดทำวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ การฝึกปฏิบัตินักเรียนให้มีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษตามโครงการประจำปีการศึกษาของโรงเรียน

การจัดการความรู้ก่อเกิดมานานแสนนานแล้ว แต่การจัดเก็บความรู้เหล่านั้นยังไม่เป็นระบบ และสืบค้นไม่ได้ดีเท่าที่ควร เพราะเหตุเนื่องมาจากเทคโนโลยีก้าวล้ำนำยุคอยู่เสมอ จึงทำให้การจัดการความรู้มีเสียงเหมือนจะต้องมีความรู้เรื่อง ไอที (Information Technology) จึงจะจัดการได้ แต่เป็นการเข้าใจผิดเสียแล้ว การจัดการความรู้สอดแทรกอยู่ในตัวคนทุกคนตั้งแต่เกิดจนกระทั่งดับชีวิต คน หรือ มนุษย์มีการจัดการความรู้ โดยสังเกตจากการใช้ชีวิตในสังคม การอยู่รอด การดำรงชีพ การเรียนรู้ที่จะทำให้ตนเองมีความสุขตามอัตภาพ สิ่งเหล่านี้ที่กล่าวมาเป็นการจัดการความรู้ทั้งสิ้น

แต่เนื่องจากเทคโนโลยีและความก้าวหน้า เราจึงต้องพึ่งพาความรู้ความสามารถและความถนัดตลอดจนความสนใจที่จะเรียนรู้ โดยการนำอิเล็กทรอนิกส์เครื่องมือสื่อสารมาประกอบการจัดการความรู้ เท่านั้นเองที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต ดังนั้นผู้คนที่มีความสามารถในการใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์คอมพิวเตอร์จึงได้เปรียบกับการจัดการความรู้ได้รวดเร็ว แพร่ขยายได้รวดเร็วตามใจคิดและปรารถนา ผู้เขียนจึงมีความสุขกับการที่รู้ว่าครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ(ภาษาอังกฤษ) ทุกคนมีความตระหนักดีในการจัดการความรู้ เห็นประโยชน์และมีความพยายามที่จะจัดเก็บและนำความรู้มาแลกเปลี่ยนกันตลอดเวลาที่มีอยู่

เมื่อผู้เขียนให้นักเรียนทำงานส่ง อ่านเสร็จแล้วให้สรุปความรู้ที่ได้เป็น 3 ข้อ คือ ข้อหนึ่งได้ความรู้เรื่องอะไร ข้อสอง มีความประทับใจในเรื่องอะไร และข้อสาม นักเรียนมีข้อเสนอแนะอะไรให้ผู้เขียนบ้าง นักเรียนมีความสามารถค้นคว้าหาข้อมูล ซึ่งบางคนได้พริ้นท์งานในเว็บไซต์ของครูมาส่ง ผู้เขียนได้บอกให้ไปเขียนสรุปเป็น สามข้ออีกครั้ง แต่การจัดการความรู้ให้แก่นักเรียนโดยวิธีการใช้อินเตอร์เนตและเครื่องคอมพิวเตอร์นั้น มักจะมีข้อจำกัด เพราะนักเรียนทุกคนไม่ได้มีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้าน ซึ่งจะทำให้ผู้ปกครองเดือดร้อนในการนำพานักเรียนไปที่ร้านอินเตอร์เนต เพื่อที่จะทำงานมาส่งครูของเขา

แต่เมื่อพบกับปัญหาและข้อจำกัด ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่คิดทำอะไรเลย ผู้เขียนได้พยายามทุกหนทางที่จะเก็บเล็กผสมน้อยในเรื่องของความรู้ ถึงแม้ว่าจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยก็ตาม แต่ก็คิดว่าดีกว่าที่จะไม่ทำหรือไม่ขยับทำอะไรเลย นักเรียนหลายๆคนทีศักยภาพแบบเหลือเชื่อ นักเรียนมีความสามารถทางการใช้เครื่องมือสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ มีความสามารถติดต่อสื่อสารกับครูได้โดยการใช้อีเมลล์ หากครูผ้สอนหรือผู้เขียนไม่คิดที่จะดำเนินการในเรื่องการเรียนผ่าน blog จะไม่ได้ล่วงรู้ว่าขีดของศักยภาพของนักเรียนนั้นมีมากแค่ไหน ผู้เขียนไม่ขีดจำกัดความสามารถของเขาเพียงแค่นำข้อจำกัดมาอ้าง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเหนื่อยยากในการจัดทำงาน เมื่อนักเรียนเหล่านี้เติบโตขึ้นไปเรียนใน ชั้นอุดมศึกษา พวกเขาจะได้วิธีการเรียนรู้ด้วยตนเอง จัดการความรู้ของตนเองอย่างมีศักยภาพและมีความหมาย ผลผลิตที่ผู้เขียนคาดหวังจะได้เป็นจริงอย่างที่ครูทุกคนใฝ่ฝันไว้

วันอังคารที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2551

เคล็ดลับการเขียน Scholarship Essay ให้โดนใจคณะกรรมการ

เคล็ดลับการเขียน Scholarship Essay ให้โดนใจคณะกรรมการ

จากประสบการณ์ที่มี จากการเป็นนักเรียนทุนมูลนิธิโรเกชั่น แล้วเขียน Essay เพื่อขอรับทุนไปศึกษาดูงานที่ต่างประเทศ ทำให้รู้ว่า ถึงแม้ว่าการเขียนในหัวข้อที่ดูน่าเบื่อสำหรับการเขียน Scholarship Essay ก็สามารถทำให้ดูน่าสนใจได้ หากว่าวิธีการเล่าหรือเขียนของคุณเป็นวิธีที่แปลกใหม่

ในการเขียน Scholarship Essay มีวัตถุประสงค์สำคัญอยู่สองสิ่ง คือ การเขียนเพื่อให้คณะกรรมการเชื่อว่าคุณนั้นเป็นผู้ที่เหมาะสมจะได้รับทุนการศึกษา และทำให้คณะกรรมการทราบถึงความสามารถที่หลากหลายของคุณ ที่มิได้จำกัดเพียงแค่คะแนนสอบหรือเกรดเฉลี่ยที่สูงเท่านั้น

ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเคล็ดลับการเขียน Scholarship Essay เพื่อเป็นประโยชน์แก่น้องๆ หรือผู้ที่กำลังจะสมัครขอทุนการศึกษา
1. ตอบคำถามให้ถูกต้อง คุณสามารถทำตาม 12 ข้อถัดไปได้ แต่หากคุณตอบไม่ตรงคำถามนั้น คุณก็ไม่สามารถที่จะชนะใจกรรมการและได้รับทุนการศึกษา
2. ใช้ความคิดสร้างสรรค์ แม้ว่าหัวข้อในการเขียน Essay ของคุณอาจดูน่าเบื่อ แต่หากคุณใช้ความคิดสร้างสรรค์ คุณก็สามารถทำให้มันดูน่าสนใจขึ้นมาได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเขียนเกี่ยวกับการแข่งขันด้านฟุตบอลที่คุณได้รับการฝึกฝนมา คุณไม่ควรที่จะเริ่ม Essay ของคุณโดยเริ่มว่า "I worked long hours for many weeks to train for XXX competition." คุณอาจเขียน "Every morning I awoke at 5:00 to sweat, tears, and blood as I trained to bring the Thailand football trophy to my hometown."
3. เป็นตัวของคุณเอง คณะกรรมการต้องการทราบเกี่ยวกับตัวคุณและความสามารถในการเขียนของคุณ ดังนั้นคุณควรเขียนสิ่งที่มีความหมายและออกมาจากใจ ในบางครั้งอาจจะไม่ได้ออกมาจากการกระทำของคุณอย่างเดียวก็ได้ หากคุณสามารถทำได้นั้น Essay ของคุณก็จะเป็นเอกลักษณ์ หลายคนที่เดินทางไปต่างประเทศหรือชนะการประกวด แต่ความรู้สึกของคุณที่มีต่อประสบการณ์เหล่านี้จะทำให้คุณโดดเด่นกว่าผู้อื่น และควรหลีกเลี่ยงการเขียนเกี่ยวกับเรื่องที่คุณมีประสบการณ์ไม่มากนัก
4. อย่าใช้คำศัพท์วิชาการ มีหลายคนเป็นจำนวนมากที่คิดว่าการใช้คำศัพท์ที่ยาก คือการเขียน Essay ที่ดี การใช้คำศัพท์ที่ยากสามารถทำได้ หากคุณใช้อย่างเหมาะสมกับประโยคและกับสไตล์การเขียนของคุณ 5. ใช้สไตล์การเขียนที่ชัดเจน การเขียน Essay ที่ดีนั้น คุณควรจะเขียนแบบเจาะจง อย่าเขียนในลักษณะกว้างๆ ให้รายละเอียดและอธิบายถึงเหตุผลให้แก่คณะกรรมการอย่างเพียงพอและอย่างน่าสนใจ
6. ใช้เวลาในการเขียนบทนำให้มากที่สุด คณะกรรมการมักจะใช้เวลาเพียงแค่ 1-2 นาที ในการอ่าน Essay ของคุณ ดังนั้น บทนำของคุณควรจะดึงดูดความสนใจของผู้อ่านตั้งแต่เริ่มต้น ไม่ใช่เรื่องแปลกหากคุณจะแก้บทนำใหม่หมด หลังจากคุณเริ่มเขียนเนื้อหาของ Essay ของคุณ อย่าสรุปเรื่องราวทั้งหมดของคุณในบทนำ ลองถามตัวเองว่าเพราะสาเหตุใดผู้อ่านอยากจะอ่าน Essay ทั้งหมดของคุณ หลังจากอ่านบทนำ หากการเขียนบทนำของคุณ คือการสรุปทั้งหมด คณะกรรมการก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องอ่านเนื้อเรื่องที่เหลือของ Essay คุณสร้างความแปลกใจหรือความลึกลับในบทนำของคุณ ไม่จำเป็นเสมอไปว่าตั้งแต่ประโยคแรกของ Essay คุณนั้นจะต้องเขียนเกี่ยวกับเรื่องที่คุณตั้งใจอย่าง 100% ตั้งคำถามหรือประเด็นให้คณะกรรมการสนใจอ่าน Essay ของคุณ ทำให้ผู้อ่านรู้สึกคล้อยตามอารมณ์ความรู้สึกของคุณที่คุณต้องการจะสื่อให้คณะกรรมการ
7.เนื้อเรื่องของคุณต้องเชื่อมโยงกับบทนำ บทนำของคุณควรดูน่าสนใจ และเนื้อหาในเนื้อเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเชื่อมโยงกับบทนำของคุณ
8. ใช้คำเชื่อม ผู้สมัครบางคนละเลยที่จะใช้คำเชื่อม คุณจำเป็นจะต้องใช้คำเชื่อมระหว่างย่อหน้าในเนื้อเรื่องของคุณเพื่อที่จะทำให้การเรียงลำดับการเล่าเรื่องของคุณเป็นไปอย่างถูกต้องและทำให้ผู้อ่านไม่สับสน คำเชื่อมนั้นไม่จำเป็นเสมอไปว่าจะต้องเป็นคำว่า as a result, additionally, while อาจจะใช้คำที่เป็น key word ในการทำให้ความคิดต่างๆประสานกันก็เป็นได้
9. บทสรุปมีความสำคัญมาก บทสรุปเป็นโอกาสสุดท้ายที่คุณจะสามารถโน้มน้าวให้ผู้อ่านเชื่อว่าคุณเป็นผู้ที่เหมาะสมกับการได้รับทุนการศึกษา หรือให้ผู้อ่านประทับใจกับความสามารถของคุณ ควรหลีกเลี่ยงการสรุปบทความทั้งหมดของคุณโดยเฉพาะ Essay ที่สั้น และควรไม่ใช้คำ เช่น in conclusion, in summary, to conclude
10. หันไปทำอย่างอื่น เว้นไปอย่างน้อยหนึ่งอาทิตย์ในการทบทวน Essay ของคุณ และกลับมาดูใหม่อีกหลังจากนั้น เพื่อคุณจะได้มั่นใจว่าสิ่งที่คุณเขียนไปนั้นดีพอหรือไม่
11. นำ Essay ของคุณไปให้ผู้อื่นอ่าน และขอให้ผู้อ่านตอบคำถามต่อไปนี้ขณะอ่าน Essay ของคุณ Essay นี้เกี่ยวกับเรื่องใด ส่วนใดของ Essay ที่ดีที่สุด Essay นี้มีอะไรที่น่าประทับใจหรือน่าจดจำมากที่สุด ส่วนใดของ Essay ที่แย่ที่สุด ส่วนใดของ Essay ที่ยังสับสนหรือต้องการคำอธิบายเพิ่มเติม ส่วนใดของ Essay ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหัวข้อหลักของ Essay ทุกประโยคใน Essay นี้มีความสำคัญหมด หรือไม่ มีประโยคไหนที่สามารถตัดออกไปได้หรือไม่ Essay นี้ได้กล่าวถึงความเป็นตัวตนหรือบุคลิกลักษณะนิสัยของผู้เขียนหรือไม่ และที่สำคัญ หากคุณเป็นคณะกรรมการ คุณจะพิจารณาให้ทุนการศึกษาแก่ผู้เขียนหรือไม่
12. ตรวจแก้ใหม่ คุณไม่สามารถเขียน Essay ที่ดีได้ หากคุณไม่ได้ตรวจแก้ใหม่ คุณถูกจำกัดคำในการเขียน ดังนั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้คำอย่างชาญฉลาด จงลบทุกประโยคที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหัวข้อหลักของคุณ คุณได้ใช้คำเชื่อมในการเขียนหรือไม่ ประโยคเริ่มต้นและบทสรุปของคุณเป็นเพียงแค่การย่อเนื้อเรื่องหรือไม่ คุณมีข้อผิดพลาดด้านไวยากรณ์หรือไม่

ขอให้โชคดีในการเขียน Essay เพื่อขอรับทุนนะคะ....

วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

A good teacher in my View

บทความนี้ข้าพเจ้าเขียนขึ้นปีที่แล้ว เมื่อครั้งที่ข้าพเจ้าไปเป็นครูที่โรงเรียน Northcoast preparatory and Performing Arts Academy in USA....ได้รับแรงบันดาลใจจากการสังเกตการทำงานของ Dr.Jean Bazemore ซึ่งเป็นผู้อำนวยการของโรงเรียนแห่งนี้ และบทความนี้ได้รับการพิมพ์เผยแพร่ใน วารสารและเวบไซต์ ของ มูลนิธิเอเอฟเอส อเมริกา นิวยอร์ค

********************************************************************

A GOOD TEACHER IN MY VIEW
ครูที่ดีในมุมมองของข้าพเจ้า


" Give me a fish and I eat for a day, teach me to fish and I eat for a life time."

This is the difference a teacher can make in a person's life......
ให้ปลาแก่ฉัน ฉันได้กินเพียงวันเดียว สอนฉันตกปลา ฉันได้กินตลอดชีวิต


What makes a good teacher ?
อะไรทำให้คุณเป็นครูที่ดีได้?

Who is the best teacher ?
ใครคือ ครูที่ดีที่สุด

I fear answering this , knowing that there are many fine teachers all with different personalities and teaching styles. I will try to determine , in my view , three of the essential qualities of a good teacher :
ข้าพเจ้า กลัวที่จะตอบคำถามนี้ อย่างที่เรารู้ มีครูดีๆ หลายคน แตกต่างกันไปทั้งบุคลิกลักษณะและสไตล์การสอน สำหรับความคิดของข้าพเจ้าแล้ว ครูที่ดีควรจะมีคุณลักษณะที่ดีดังนี้

1. Basic knowledge of his / her subject.
มีความรู้ในเรื่องที่จะสอน

2. A passion for teaching - born of the belief that everyone has the ability and the

right to an education.
มีความปรารถนาดีที่จะสอน -เชื่อว่าทุกคนสามารถสอนได้

3. Good communication skills.

มีทักษะในการสื่อสารที่ดี



Back ground knowledge is both the grasp of a realm of knowledge and a way of

Looking at the world. It is not only an affair of the classroom , but also at its best ,

knowledge is a way of life. It requires curiosity and the ability to find new meaning

in familiar data , the ability to understand things in context , and to relate minute data

to general theories. With out a basic knowledge of his/ her subject , at a teacher best

hinders the progress of his / her students. By passing along inaccurate or blatantly

incorrect information , a teacher runs the risk of endangering students and others.

We certainly want a teacher with good knowledge to teach in the medical schools!!!


I am certain that the first English language instruction I received in my fifth grade


class discouraged many of the students from continuing their English language

studies. For if they tried to use the English being taught by my first English teacher,

they would never be understood by a native speaker. Because my primary school

was very rural , we did not have the luxury of a degree English teacher. My first

English teacher had a very elementary understanding of English. She had not the

slightest idea how to pronounce many of the words in English. For example , a

simple word like " the " , she taught us to pronounce as " tee - hee ". She was doing

the best she could , but we developed many incorrect habits and misunderstandings

that were difficult to correct. After 2 years of English in Namkam village , I could

neither read nor write in English ; all I had learned was the alphabet and the numbers

0 - 100. I learned how to write my own name however , I was 1 of 3 only students

able to do so. In high school I worked very hard to improve my English , but it was

not until I went to Rajabhat Institute Buriram University that I had the chance to

study English with a native speaker . At last I began making progress!!!



The second characteristic , a passion for teaching , is not something you can learn

from a book. Nor does a high score on the TOEFL test guarantee that you will be a

good English teacher. Good teaching that encourages enthusiastic learners - comes

from within like a calling from the heart . The passion it comes to your mind that you

want to become a teacher , or you would never. The passion is important to build

personal qualities or unity of character too.


Dr. Jeanne Bazemore , the Principal of North Coast Preparatory and Performing Arts

Academy , Arcata , California is very good example this. She teaches with her head and

with her heart. She believes students can do or learn well if they are supported and

encouraged. I will not forget the cold moonlit night when we celebrated the Loy

Krathong ceremony on the Moonstone beach. Accompanied by several students and

their parents , teachers and Dr. Bazemore ( 70 years old on bundled up in a big heavy

coat ) We set the flower - filled floating bowls with the gentle waves . The light from

the candle danced across the smiling faces of everyone , warming the hearts of all. That I

knew students learned through their head and through their heart to understand other

culture and the world . Dr. Bazemore knows the name of every students and calling

them by name , always greeting students and colleagues pleasantly. She often asks a

student about something that had earlier worried him / her i.e ; Suesan , is your mother

recovering from her surgery ? , She resists being the sarcastic , or funny , when a

students makes a foolish comment in class. She tells a student the unvarnished truth ,

privately i.e ; John , I honestly suspect you...' , George , you are not working hard

enough " . She never gives up on a student , or categorize or band him / her

permanently. She is a poet , weaving with her colorful magic language from a passion

for her subject. Dr. Jeanne Bazemore is the great school principal and teacher that I

never met before !!!


The third quality of a good teacher is good communication skill with students. That is

can not found through a test either. It would be like studying acting through post. Either

you have it or you do not , if it is with you , it grows with experience. A good teacher

knows the difference between asking students to listen to you and hear you - and acting

upon it. A good teacher hear students and question them thoroughly enough to know just

how they see are confused by an issue. A good teacher show that you can change your

mind , when evidence and logic suggest it. Being on the edge of your subject and

interests ; exhibiting the some question in your field that you would have your students

feel. Perceiving the results of class as " my students know ABC " rather than " I

covered ABC in my class " and knowing the difference between two. A good teacher is

friend with students but not buddies ; the obligations of the latter relationship limit one's

freedom to teach well and caring about kids that make a difference.


Again I will use Dr. Jeanne Bazemore as an example. On the first day of school , all

students and teachers gathered in the main hall for an exercise in. Dr. Bazemore asked

students about what they can do to bring great peace and harmony into the world ?

Students worked in group of 5-6 together with freshman , sophomore , senior and junior

include exchange students. They shared ideas , discussed and presented by acting

through their ideas. Dr. Bazemore listened with her heart and critical thinking how she

can teach students to become a good people in this world ?....


This school , North Coast Preparatory and Performing Arts Academy ( NPA ) formerly

known as Big Lagoon Charter school presents a rigorous college preparatory program

with a strong emphasis on the arts and sciences. Their curriculum includes critical

thinking , travel , musical and dramatic performances , community service , analytical

and creative writing , and university-level courses. Students are also encouraged to

participate in courses taught at College of the Redwoods and at Humboldt State

University , where Principal , Dr. Jean Bazemore , is a Professor Emeritus. She believes

in the importance of nurturing young people so that they are willing to look and see the

world around them in a new way. She seeks to " provide creative , innovative and

effective ways through which students can make positive contributions to enhance the

quality of life for themselves and for others. " In keeping with the school's mission and

vision , all NPA juniors and seniors participate in the International Baccalaureate (IB)

program and are candidates for an IB Diploma. The IB Program is a challenging ,

internationally designed two-year curriculum , and the diploma is widely recognized by

the world's leading universities. A primary goal of the IB program is to develop

inquiring , knowledge able and caring young people who help to create a better and more

peaceful world through intercultural understanding and respect. Which component of

the teaching is more important ? If it knowledge , or the ability to pass it on ? Well ; it

very much depends on the class one is teaching. If you are in a post graduate class ,

knowledge is more important than presentation. The students of the class are filtered

stuff. They expect information from the teacher. Half the knowledge is where to find it ,

but if one is teaching in a school or plus two class , the ability to communicate

is more important than the knowledge itself. Here teaching is innovation become true.

Teachers have to find independent , natural and new methods for presentation of the

subject and the topics. The emphasis has to be more on how to tell than what to tell.

Guiding the student in such a way that the student discovers the facts , assumable a

theory and figures a way to test the truth of it.


In sense everyone in the world is teacher. We teach our children , our parents , our co-
worker varies times in our lives.
How ever, some of us become success ed great teachers. I believe this happen when a teacher believes in the power of education.
When you teach with the belief that everyone can learn. When the student does not learn the way the teacher teaches, then the good teacher finds a way to teach so that the student can learn. Those who are successful in these respects alone can become good teachers at this stage. Even with a limited knowledge a person can become a good teacher , if she / he has abilities.

My mother , Mrs.Seeda Pakpain who has influenced my decision to become a teacher. She is a farmer and she finished only grade 4 but she had taught me well with all of her knowledge. She has high aptitude and good communication skill but her knowledge is limited !!. She wanted me to become an English teacher a language that she never learned but recognized it is importance as a universal language.


By believing in me and supporting me the Rogatien Foundation has inspired me , I promise myself to be the best English teacher as I can be. The Rogatien Foundation continued financial and emotional support me to come to USA as AFS Visiting Teacher Program.The Rogatien Foundation has an annual seminar to share knowledge and exchange experiences thereby helping teachers learn new methods , teaching skills and knowledge. With out my mother and the Rogatien Foundation I do not know that how far I could...... THANK YOU SO MUCH that you be here for me.

วันศุกร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2551

What I have gain for the guests who visit my school

เมื่อเร็วๆมานี้ คณะครูและนักเรียนจากอเมริกาได้เดินทางมาเยี่ยมโรงเรียนประสาทวิทยาคาร จ.สุรินทร์

ข้าพเจ้าได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการมาเยี่ยมครั้งนี้......นี่เป็นคำถามจาก คุณเอก สยามวาลา เหรัญญิก มูลนิธิโรเกชั่นที่มอบทุนสนับสนุนให้ข้าพเจ้าได้เรียนจนจบปริญญาตรี และได้เดินทางไปศึกษา ฝึกอบรม ดูงาน ที่อเมริกา เมื่อปี 2549-2550

*****************************************************************************

ดร.จีน เบซมอร์ ผู้อำนวยการโรงเรียน เอ็น พี เอ ที่แคลิฟอร์เนีย เดินทางมาเยี่ยมเมืองไทย พร้อมด้วย นักเรียน 5 คน (แพทริค,เฮลิ,จีน่า,แอลิ,และ มาไรอัล ) มร.มาโซ ครูสอนวิชาภาษาฝรั่งเศส และ ลอเรน เพื่อนที่แสนดีของข้าพเจ้า

Dr. Jean Bazemore - the principal of the North Coast Preparatory and Performing Arts Academy ( NPA ) came to Thailand with 5 students ( Patrick, Heyley, Gina ,Ally and Mariah ) , a French teacher Marceau and my liaison- Lauren Sarabia


มันเป็นช่วงเวลาที่ดีมากสำหรับนักเรียนของข้าพเจ้า เพราะว่าชาวต่างชาติ -พวกเขาได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ทำกิจกรรมที่โรงเรียนของข้าพเจ้า ( 14-20 พ.ย.50) มีการเข้าค่ายภาษาอังกฤษ และเข้าสอนในห้องเรียน บรรยากาศที่โรงเรียนตอนนั้นเต็มไปด้วยการกระตือรือร้นที่อยากจะพูดกับชาวต่างชาติ และนักเรียนมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนภาอังกฤษมากยิ่งขึ้น
It was a great time for my students because Foreigners had spent their time with my school for a week( 14 -20 Nov ) . They actived on the English Camp ( 15-17 Nov) and attended in my classroom, or other English class.My school's atmosphere was very nice - students braved to speak with foreigners and they have good attitude with English now.


ชาวต่างชาติที่มาได้พักกับครอบครัวของนักเรียน ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เพียงแค่สัปดาห์ แต่นักเรียนก็ได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชนบท..นี่มันคือประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่
All of my guests stayed with my students' families . Although being host family for a week but they could learn and understand more English and culture. For student in the country side it was great experiences.....


ขอขอบคุณมูลนิธิโรเกชั่น ที่มอบโอกาส ให้กับคุณครูของพวกเขา ได้เดินทางไปอเมริกา และนำมิตรภาพและสิ่งที่ดีงามกลับมาสู่พวกเขา
Thank you the Rogatien Foundatien to gave their teacher a chance to go to America and brought some beautiful friendship back to them.


อะไร คือสิ่งที่ ดร.จีน เบซมอร์ พูดเกี่ยวกับโรงเรียนของข้าพเจ้า?
What was Dr.Jean Bazemore comments about my school?

เมื่อครั้งที่ ดร.จีน มาเยี่ยมโรงเรียนของข้าพเจ้านั้น โรงเรียนของข้าพเจ้ายังไม่มีผู้อำนวยการ ข้าพเจ้าได้รับความกรุณาจาก ศน.อุดม ภาสดา ศึกษานิเทศก์ภาษาอังกฤษ สุรินทร์เขต 3 มาเป็นที่ปรึกษา และคอยให้กำลังใจช่วยเหลือ แนะนำ เป็นอย่างดี
In that time my school didn't have the school director but I contacted with Mr.Udom Passada- the Surin Educatoin Zone 3 officer came to my school and helped me organized for the activities.

ดร.จีน ถามข้าพเจ้าว่าโรงเรียนขนาดใหญ่ มีนักเรียนตั้ง 2,800 คน ทำไมถึงไม่มีผู้อำนวยการมาเป็น ปี ( ต.ค.49-พ.ย.50) ....ข้าพเจ้า บอกว่าโรงเรียนมี ครู 90 คน แต่ข้าพเจ้าไม่สามารถ ตอบได้ว่า ทำไมโรงเรียนของข้พเจ้าจึงไม่มี ผอ. มาเป็นปี และก็คิดว่า คงมีโรงเรียนที่มีปัญหาแบบนี้อีกหลายแห่ง
Dr.Jean asked me, we have 2,800 students why we didn't have the school director for a year ( Oct 2006 - Nov 2007 ) and how many teachers???.........We have 90 teachers but I could not answer her why we have this problem??? .........I think some school still have the same problem with my school.

เพราะว่าขณะนั้น โรงเรียนของข้าพเจ้าไม่มี ผอ. ทำให้กิจกรรมบางอย่างไม่ค่อยราบรื่นนัก เช่น การไปร่วมพิธีเลี้ยงช้าง หรือ การเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนการสอน เพราะ จำนวนนักเรียนมี 56 คน ต่อ ห้องเรียน และทั้งโรงเรียนมี ประมาณ 58 ห้องเรียน เมื่อนักเรียนเริ่มคุ้นเคย กันแล้ว พวกเขาก็อยากคุยกับชาวต่างชาติ อยากถ่ายรูป ทำเอาพวกเขาเหนื่อยตามๆกัน ถึงแม้ว่า อากาศจะร้อน แต่มิตรภาพนั้น สวยงามยิ่งนัก.....รอยยิ้ม เสียงหัวเราะที่มีความสุข ทำให้ข้าพเจ้ามีกำลังใจในการต่อสุ้ ...ต่อไป
Because we didn't have the school director ,some activities didn't run smoothly for example the Elephant Beffet' Festival study tour activity .Other problem was we have 56 students in one classroom ,in my school we have 58 classrooms .After my students got familiar with foreginers they want to took pictures and had conversations with the guests. The weather was very hot but the freindship is beautiful....the smiling faces cheered me up and I hope it happen again in next year....


ดร.จีน พูดถึงการศึกษาของไทยโดยภาพรวม อย่างไรบ้าง??
what is Dr.Jean comments about education in Thailand generally?


ดร.จีน ได้มีโอกาสไปเยี่ยมโรงเรียนหลายแห่ง เมื่อมาเมืองไทย โรงเรียนสตรีศึกษา ที่กรุงเทพฯ ,
โรงเรียนอนุบาล แห่งหึ่งใกล้ที่พักในกรงเทพฯ ,
โรงเรียนสิรินธร โรงเรียนประจำจังหวัดสุรินทร์ ,
โรงเรียนบ้านเกษตรถาวร โรงเรียนเล็กๆ ประจำหมู่บ้าน อยู่ใกล้ตะเข็บชายแดน
และโรงเรียนประสาทวิทยาคาร โรงเรียนประจำอำเภอเล็กในต่างจังหวัด
Dr.Jean had chances to visit difference schools while she stayed in Thailand......
She visited Satree Wittaya School in Bangkok ,
Anubarn school - a small nursery near her hotel,in Bangkok
Sirindhon School- the biggest school in Surin ,
Ban Kraset Thaworn School - a primary school 10 kilosmeters from border Thai - Cambodia
and my school,PrasatWittayakarn school- a school in a small town


ทำไมมันถึงแตกต่างกันเพียงนี้!!!!!????? นั่นคือคำถามที่ ข้าพเจ้าเองก็ตอบไม่ได้....
ความแตกต่างกัน ทั้งทางกายภาพ คือ อาคาร สถานที่ จำนวน ครุ หรือแม้กระทั่ง อุปกรณืเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์
นี่ แล้วคุณภาพของผู้เรียนจะเป็นอย่างไร
Why they are so difference?????!!!!!?????
The school in Bangkok ,in big city like Surin , in small town like Prasat , and in the small village like Ban Kraset Thaworn are totally differences ....the number of students, teachers ...The buildings and technology-computers ....


หลังจากที่ไปเยี่ยมโรงเรียนสิรินธร กลับมา ดร.จีน ถามข้าพเจ้าว่า ถ้าหากมีโอกาสได้ย้ายไปโรงเรียนสิริรธร จะไปไหม....
ข้าพเจ้า ไม่ลังเลใจเลย ตอบไปทันที ว่า ไม่ เพราะว่า ที่นี่ โรงเรียนของข้าพเจ้า นักเรียนต้องการข้าพเจ้า พวกเขาต้องการครูสอนภาษาอังกฤษ ....เมื่อ ดร.จีน ฟังคำตอบ เขาถึงกับน้ำตาคลอเบ้า ....ความอบอุ่นจากหัวใจและจิตวิญญาณของความเป็นครู คงจะช่วยให้นักเรียน และการศึกษาไทยดีขึ้น

After we visited Sirindhon School .....She asked me question...if I have a chance to move to Sirindhon school in Surin ....Do I want to move there???
I said .....NO.....because , HERE, in my school my students need me - they need English teacher...I want to be here for my school and my students....After she listened to me her eyes were watering and we huged each other......the warmth of teacher's heart will help students I wish......


ข้าพเจ้าได้อะไร จากการที่มีชาวต่างประเทศมาเยี่ยมครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยให้โรงเรียนของข้าพเจ้าดีขึ้น
Did I gain anything from her that will make my school a better school, and I a better teacher?


คำตอบมีอยุ่มากมาย อย่างแรก ข้าพเจ้าได้ เทคนิคและวิธีการสอนที่หลากหลาย อย่างหนึ่งที่ข้าพเจ้าประทับใจ และเป็นสิ่งที่ฮิตในอเมริกา คือ การแสดงบทบาทสมมุติ โดยให้นักเรียนคิดถึงเรื่องใกล้ตัว นำเสนอ ข้อปัญหา พร้อมเสนอแนะวิธีการแก้ไขด้วย เรียกว่า อิมโพรวิเซชั่น เช่นการให้นักเรียนคดถึงปัญหาของโลก แล้วช่วยกันหา แนวทางแก้ไข.....สิ่งที่สำคัญครูควรใจเย็นและอดทน อีกทั้งต้องกระตุ้นเสริมแรงเพื่อให้นักเรียนได้กล้าแสดงออก
นอกจากนี้ นักเรียนที่มากับคณะต่างก็เตรียมผนการสอน หนังสือ ภาพยนต์ เกม และเพลง ต่างๆ มาร่วมเล่นกับนักเรียนของข้าพเจ้าด้วย
The answers are a lot !!!! First, I gain many techniques and methods how to teach students one is popular in America is teaching with roleplay - improvisations. For example students think about the problems in our world by their own idea and role play .....how to save our world.
Guest students have their own lesson plan,books,movies ,songs and game to shared with teachers and students


จากกิจกรรมนี้ ทำให้ผู้ปกครองมั่นใจในโรงเรียนมากยิ่งขึ้น
Parents are sure in my school and want their kids study in my school.

นักเรียนได้เพื่อนใหม่ เรียนรู้การใช้อิเทอร์เน็ต การเขียน อี เมล์ สนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษ และสามารถนำภาษาอังกฤษ มาใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย และที่สำคัญ ไดรู้ว่าภาษาอังกฤษนั้น มีความสำคัญขนาดไหน
My students have many new friends ,learn how to use internet, write e mail, and enjoy learning English. They know they can use English in their daily life and how important it is....

และขระนี้ พวกเราได ผู้อำนวยการคนใหม่ และมีคอมพิวเตอร์ที่ห้อง ซาวด์แลบแล้ว นะคะ
Now we have the school director and we have computer sound lab!!!!!!

วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2551

วิธีเลือกซื้อ Dictionary สไตล์ครูเขมรัศมี

วิธีเลือกซื้อ Dictionary


มีนักเรียน และผู้ปกครองหลายคนถามว่า ถ้าจะซื้อ Dictionary สักเล่ม ( ไม่รวมถึง Talking Dictionary )จะซื้อแบบไหนดี ? แบบไทยเป็นอังกฤษ หรือ อังกฤษเป็นไทย หรือ อังกฤษเป็นอังกฤษ เล่มไหนดี ดูอย่างไรถึงจะรู้ว่าเล่มนี้ดี

ถามกันมาอย่างนี้ก็ดีแล้ค่ะ คำตอบคือ ถ้าเป็นนักเรียนที่ยังเล็กอยู่อาจใช้ picture Dictionary ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนสนุกกับการดูภาพ ชี้ แล้วฝึกพูดคำศัพท์ แต่ถ้านักเรียนที่เริ่มชั้นประถมศึกษาตอนต้นก็อาจซื้อDictionary ที่มีการรวบรวมคำศัพท์ที่เหมาะสมกับระดับของเขากอนก็ได้นะคะ ส่วนนักเรียนประถมศึกษาตอนปลาย และชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ก็แนะนำให้ซื้อ อังกฤษ-ไทย และ ไทย - อังกฤษ เพื่อที่จะได้เรียนรู้และฝึกใช้คำศัพท์ที่หลากหลาย และที่จะขอแนะว่าควรซื้อที่สุด คือแบบ อังกฤษเป็นอังกฤษ หลายคนตอบกลับมาว่า แล้วจะรู้เรื่องหรืเปล่า สำหรับผู้เริ่มต้น หรือ สำหรับผู้ไม่ค่อยเก่งภาษาอยู่แล้ว แล้วดูอย่างไรว่าดีหรือไม่ดี ?

คืออย่างนนะคะ สำหรับผู้ที่ไม่รู้ หรือไม่เก่ง หรือ เก่งอยู่แล้ว หรืออะไรก็ได้ ในความคิดของข้าพเจ้าแล้ว ก็ยังคงต้องซื้อ Dictionary แบบ อังกฤษ เป็น อังกฤษ อยู่ดีค่ะ มีเหตุผลอยู่หลายประการคือ

1. เนื้อหาแน่นกว่ามาก ละเอียดกว่า เข้าใจได้มากกว่า เช่น มีตัวอย่างสำหรับคำนั้นๆให้มาด้วย ทำให้ทราบถึงความสำคัญอื่นๆของคำนั้นๆ ด้วย เช่น Wait แปลว่า รอ และมีประโยคตัวอย่างเช่น

I will wait for you. ทำให้รู้ว่า Wait ใช้กับ Preposition for

2. คำอธิบายศัพท์ เป็นคำง่ายๆ ไม่ยากเลย คุณจะเข้าใจได้ดีกว่าเป็นภาษาไทยซักอีก แถมบอกว่า เป็น Informal หรือ Formal ด้วยหรือ บอกว่า เป็นคำที่ใช้ทั่วๆไป หรือ ไม่ได้ใช้ทั่วๆไป

3. บอกความหมายได้หลายแบบ เช่น กรณีที่คำนี้เป็น Noun หรือ Verb หรือ Adjective, Adverb เนื่องจากหากชนิดของคำนั้นๆเปลี่ยนไป จะมีความหมายเปลี่ยนไปได้ พร้อมกันรูปแบบของคำนั้นๆในแต่ละรูปแบบ

4. หากคำนั้นสามารถทำเป็น Idiom ( Verb + Preposition ) ก็จะแสดงให้เห็นทุกคำพร้อมความหมายของ Idiom นั้นๆ เช่น Go แปลว่า ไป แต่ Go on แปลว่า ดำเนินต่อไป หรือ ทำต่อไป ( Continue ) Take แปลว่า เอามา แต่ Take off แปลว่า บินขึ้น ( เครื่องบิน ) หรือ ถอดออก ( เสื้อผ้า ) เป็นต้น

5. บอกคำเหมือน หรือคำตรงกับข้ามของคำนั้นๆได้ด้วย

6. บอกว่าคำนั้นเป็น นามนับได้หรือนับไม่ได้

7. บอกว่าหากเป็น Verb ช่องที่ 2 และ 3 จะเขียนเป็นอย่างไร

8. ส่วนใหญ่จะพิมพ์ด้วยสีมากกว่า 1 สี เช่น สีน้ำเงิน หรือ สีแดงด้วย เพื่อเน้นให้ดูชัดขึ้น

9. มีรูปภาพในกรณีที่อาจนึกภาพไม่ออก ( บางคำ )

10.ใช้อ้างอิงได้เลย เพราะเป็นของต่างประเทศ

ยังมีอีกหลายเหตุผลที่ควรซื้อ แบบอังกฤษเป็นอังกฤษ สำหรับราคาก็ไม่แพงเลย เพราะเดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่พิมพ์ที่จีน หรืออินเดีย คุณภาพก็ใช้ได้ ถามว่าซื้อที่เมืองไทยดี หรือซื้อที่เมืองนอกดี ตอบว่าซื้อเมืองไทยดีกว่า เพราะราคาถูกกว่า ( พอสมควรเลยทีเดียว )

ถ้าถามว่าดูอย่างไรว่าเล่มไหนดีหรือไม่ดี ตอบว่า ให้ดูที่ข้อดี 1-10 ข้อข้างต้นครับ นั้นคือ ดูว่ามีตรงตามที่บอกไว้ครบถ้วนหรือไม่ พิมพ์ชัดหรือไม่ แข็งแรงหรือไม่ ยับง่ายหรือไม่ เท่านั้นเอง ตอนนี้เคยเห็น Dictionary แบบ ไทยเป็นอังกฤษ ซึ่งทำเลียนแบบข้อดีของแบบอังกฤษเป็นอังกฤษ แต่ยังไม่ดีพอ แถมแพงกว่าด้วย

วันเสาร์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2551

บทแผ่เมตตาแปลเป็นภาษาอังกฤษ

บทแผ่เมตตาแปลเป็นภาษาอังกฤษค่ะ

สัพเพ สัตตา อะเวรา โหนตุ
May all beings be free from hatred.

อัพยาปัชฌา โหนตุ
May they be free from violence.

อะนีฆา โหนตุ
May they be free from affliction.

สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ
May they be happy and protected from danger.

จากหนังสือสวดมนต์ของวัดพุทธธรรม ชิคาโก
แปลโดย Dr. Sunthorn Plamintr,Ph.D. ค่ะ
สวัสดี วันนี้วันเสาร์ได้อบรมการใช้ Google map

ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น

วันศุกร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2551

Best Practice การสอนภาษาอังกฤษ

1.ชื่อผลงาน : การสอนภาษาอังกฤษโดยการใช้เกมจำลองสถานการณ์ บทบาทสมมุติให้ตรงกับบุคลิกภาพของผู้เรียน
2. ชื่อเจ้าของผลงาน : นางเขมรัศมี สุบันนารถ ครูโรงเรียนประสาทวิทยาคาร
3. เกริ่นที่มา : จากทฤษฎีว่าด้วยระบบของภาษา“ความหมายเป็นหัวใจของภาษา ไวยากรณ์และเสียงเป็นเพียงส่วนประกอบ และสถานการณ์เป็นสิ่งกำหนดความหมายในการสื่อสาร” การสอนภาษาอังกฤษโดยใช้สถานการณ์จำลอง บทบาทสมมุติ คือการนำเอาสถานการณ์จริงจำลองหรือจัดใหม่ แต่พยายามให้มีสภาพใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด แล้วให้ผู้เรียนอยู่ในสถานการณ์นั้นๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือปฏิบัติงาน การจัดการเรียนรู้แบบสถานการณ์จำลอง บทบาทสมมุติ ทำให้ผู้เรียนได้มีโอกาสฝึกการแก้ปัญหา การควบคุมสถานการณ์ การตัดสินใจ ตลอดจนการทำงานเป็นกลุ่ม ภายใต้สภาพแวดล้อมสมจริง ทักษะที่ได้รับจากการฝึกฝน จะทำให้ผู้เรียนคุ้นเคย และเมื่อพบกับสถานการณ์คล้ายๆกัน ก็สามารถ ควบคุมสถานการณ์นั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นผู้สอนยังสามารถจัดสถานการณ์จำลองแบบเกมได้อีกด้วย เรียกว่า เกมจำลองสถานการณ์
4. ผลสำเร็จ : จากการเรียนการสอนภาษาอังกฤษตามสถานการณ์ บทบาทสมมุติให้ตรงกับบุคลิกภาพของผู้เรียน ทำให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น มีความสุขในการเรียน มีคุณธรรมจริยธรรม มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ กล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ กล้าแสดงออก ตลอดจนภาคภูมิใจในท้องถิ่นของตนเอง และที่สำคัญผู้เรียนมีความภาคภูมิใจในความเป็นตัวของตนเอง
5. ผลการได้รับการยกย่อง : ได้รับคำชมเชยจากการเผยแพร่ผลงานในการสัมมนานักศึกษา ทุนมูลนิธิโรเกชั่น ครั้งที่ 5 ณ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ จ.ปทุมธานี วันที่ 20-22 ตุลาคม 2550
6.กิจกรรม / วิธีการ / ขั้นตอนที่สำคัญ : ของการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้การจำลองสถานการณ์ และบทบาทสมมุติให้ตรงกับบุคลิกภาพของผู้เรียน
1.เริ่มที่สังเกตบุคลิกภาพผู้เรียน เลือกเนื้อหาที่คิดว่าเหมาะสมกับผู้เรียน และผู้เรียนชอบ
2.สอนเนื้อหาอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เกิดกับผู้เรียน
3.ถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไร ก็จะจำลองสถานการณ์ที่ผู้เรียนสนใจ พยายามสอดแทรกคำศัพท์
บทสนทนา แล้วสรุปความรู้ให้ผู้เรียนเป็นอย่างนี้ตลอด
4.จากการสังเกตวิธีการสอนแบบนี้ จะเห็นว่าความสนใจในการเรียน บรรยากาศการเรียนรู้
ผู้เรียนมีความสุข และผลการเรียนดีขึ้น
5.นอกจากนี้จะใช้วิธีสอนคำศัพท์ที่เชื่อมโยง ไปยังภาษาพื้นถิ่นของผู้เรียนแต่ละคนทำให้
ตรงกับบุคลิกภาพ และรู้สึกใกล้ชิดสนิทสนม ผู้เรียนจึงมีทัศนคติที่ดีต่อครูและวิชาภาษาอังกฤษ
6.บทบาทสมมตินั้น ก็จะดูว่าผู้เรียนมีพฤติกรรม ชอบแสดงออกอย่างไร ก็ให้เขานำเสนอตัวเองอย่างนั้น โดยใช้คำศัพท์ตรงกับบุคลิกท่าทางของเขา

ปัจจัยที่นำไปสู่ความสำเร็จ :ของการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้การจำลองสถานการณ์ บทบาทสมมุติให้ตรงกับบุคลิกภาพของผู้เรียน ประกอบด้วย

ก.บทบาทของผู้สอน
1.ครูผู้สอนจะใช้เวลาส่วนมากคลุกคลีอยู่ กับ ผู้เรียนให้ความเป็นกันเอง กับ ผู้เรียนแล้วพยายามสังเกตพฤติกรรม บุคลิกภาพของผู้เรียนแต่ละคน
2.ครูผู้สอนกลับมานั่งคิด เนื้อหาความรู้ ที่จะให้ผู้เรียนแต่ละคน เพื่อจะให้เหมาะสมกับบุคลิกภาพของผู้เรียน
3. ผู้สอนจะจัดบรรยากาศในห้องเรียนให้ดูอบอุ่นเหมือนบ้าน การเรียนไม่เคร่งครัดหรือเป็นพิธี รีตรอง จากนั้นให้ผู้เรียนเข้ากลุ่มตามความสนใจของผู้เรียน ครูผู้สอนอาจสมมุติให้แต่ละกลุ่มคือหมู่บ้าน แต่ละคนก็จะมีบทบาทหน้าที่ของตนเอง เช่น ผู้ใหญ่บ้าน อบต. หรือบางคนสมมุติตนเองเป็นแฟนกับชาวต่างชาติ
4. การตรวจสอบว่าผู้เรียนได้เรียนรู้หรือไม่ ทำได้โดย การสังเกต การให้แสดงบทบาทสมมุติ หน้าห้องเรียน ขณะที่ครูให้ความรู้ หรือนักเรียนแสดงบทบาทสมมุตินั้น ครูก็ได้สังเกตพฤตกรรมว่าผู้เรียนมีความสุข มีเจตคติ ทัศนคติ ในการเรียนเป็นอย่างไร สังเกต การใช้ภาษาหรือคำศัพท์ เมื่อผู้เรียนมีข้อติดขัด หรือข้อปัญหา ครูก็ให้คำชี้แนะ แก้ไขทันที โดยไม่ปล่อยให้ผ่านไป
5.ครูพยายามส่งเสริมและเสริมแรงให้ผู้เรียนมีความภาคภูมิใจในตนเองและสนใจในการเรียน โดยไม่บังคับให้ทำซึ่งดูเหมือนกับว่าบังคับให้เรียน แต่ให้ผู้เรียนทำโดยสมัครใจ และสอนเรื่องใกล้ตัว ที่นักเรียนเห็นความสำคัญให้ความเป็นกันเอง

ข.บทบาทของผู้เรียน
1.ผู้เรียนคุ้นเคยกับครูผู้สอน จึงไม่เขินอาย และกล้าแสดงออกอย่างเปิดเผย ทำให้เห็นบุคลิกภาพ หรือความเป็นตัวของตนเอง
2. ผู้เรียนเห็นความสำคัญของการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ เพราะภาษาอังกฤษมี ความสำคัญต่อชีวิตประจำวัน เมื่อเรียนแล้วก็สามารถใช้ได้จริง
3.เมื่อมีข้อปัญหา ผู้เรียนต้องกล้าซักถามผู้สอนและฝึกฝนให้เกิดทักษะ เช่น ออกเสียงคำว่า rice ( ข้าว ) กับคำว่า lice ( เหา )

บทเรียนที่ได้รับ : จากการใช้วิธีการสอนภาษาอังกฤษโดยการใช้การจำลองสถานการณ์ และบทบาทสมมุติให้ตรงกับบุคลิกของผู้เรียน ผู้สอนได้ข้อค้นพบดังนี้
1.ถ้าผู้เรียนมีจำนวนมาก การเข้าไปใกล้ชิด ผู้เรียนอาจไม่ทั่วถึง แก้ปัญหาโดยไม่จำเป็นต้องเรียนพร้อมกันหมด แต่ควรกำหนดให้ผู้เรียนมาพบครูผู้สอนได้ โดยครูผู้สอนกำหนดตารางการพบครูผู้สอน
2.หลังจากมีโอกาสคลุกคลีกับผู้เรียน ทำให้รู้ว่า ผู้เรียนมีพื้นฐานการใช้ภาษาอังกฤษไม่เท่ากัน แม้ว่าจะเป็นอุปสรรคในการเรียนรู้แต่ก็มีวิธีแก้ไขโดย แยกความยากง่าย ของคำศัพท์ อีกทั้งไม่ควรไปเน้นเรื่องไวยากรณ์มากนัก แต่จะพยายามทำให้ผู้เรียนกล้าพูดก่อน เช่น พูดภาษาอังกฤษผสมกับภาษาไทย และภาษาท้องถิ่น ซึ่งจะเป็นเสน่ห์ และดึงดูดความใจในการเรียน และผู้เรียนมีความสุข
3.เมื่อผู้เรียนมีความพร้อม ครูผู้สอนจึงพาผู้เรียนไปเผชิญปัญหา สถานการณ์จริง โดยครูคอยเป็นพี่เลี้ยง และทำให้ผู้เรียนรู้สึกอุ่นใจ แล้วจะทำให้ผู้เรียนมีความมั่นใจที่จะพูด เช่น พานักเรียน ไปทัศนศึกษาพิธีเลี้ยงช้างของจังหวัดสุรินทร์ แล้วให้ผู้เรียนไปสัมภาษณ์ชาวต่างชาติ โดยครูผู้สอนจะอยู่ประจำที่ ณ จุดใด จุดหนึ่ง เมื่อผู้เรียนมีข้อปัญหา หรือติดขัดในเรื่องใด ก็สามารถวิ่งมาถามได้ ทำให้มีความรู้สึกอุ่นใจและมั่นใจในการแก้ไขสถานการณ์ หรือพูดคุยสนทนา

7. ข้อจำกัดในการใช้ : ของการสอนภาษาอังกฤษโดยใช้การจำลองสถานการณ์ บทบาทสมมุติให้ตรงกับบุคลิกภาพของผู้เรียน ผู้สอนต้องพบกับข้อจำกัดหลายอย่าง คือ
-ผู้สอนมีภาระงานอื่นที่ได้รับมอบหมาย ทำให้ไม่มีเวลาคลุกคลีกับผู้เรียน
-ผู้เรียนมีชั่วโมงเรียนในแต่ละวันเต็มหมด จึงมีโอกาสพบผู้สอนน้อย
- การฝึกสถานการณ์จำลอง บทบาทสมมุติ ควรเป็นสถานการณ์ใกล้ตัว และบทสนทนาสั้น ๆ จากง่ายไปหายาก

8. คำสำคัญ -ใช้เกมอย่างไรให้ตรงบุคลิกภาพผู้เรียน
- การจำลองสถานการณ์
-บทบาทสมมุติ
9. วันที่นำส่ง 8 มกราคม 2551
10.ผู้นำส่ง นางเขมรัศมี สุบันนารถ
11. หน่วยงาน โรงเรียนประสาทวิทยาคาร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุรินทร์เขต 3
12.โทรศัพท์ 089-848-1436
13. e mail : pasaplaza@gmail.com , หรือ http://www.pasaplaza.blogspot.com

สืบเนื่องจากการสนทนากับท่าน ศน.เฉลิมชัย

ก่อนอื่นก็ขอขอบพระคุณท่าน ศน.เฉลิมชัยที่แนะนำให้รุ้จักกับ http://www.krusurin.net/ และชักชวนให้สร้างblog จึงเกิดเป็น blog ภาษาพลาซ่า นี้ขึ้นมา

เคยมีคนถามว่าไปอเมริกากลับมาได้อะไรมาบ้าง คำตอบคือเยอะมาก ประสบการณ์ชีวิต ครั้งหนึ่งเคยไปใช้ชีวิตอยู่ต่างแดน 1 ปี ในฐานะ นักการศึกษา ครู และ นักเรียนทุน มูลนิธิโรเกชั่น

ในฐานะครูและนักการศึกษา ก็ต้องเรียนรู้การทำงานจากพวกครูชาวอเมริกาว่าเขาทำงานอย่างไร สอนนักเรียนเขาอย่างไรให้มีคุณภาพ
ในฐานะของนักเรียนทุนมูลนิธิโรเกชั่น ก็ต้องพยายามเรียนรู้ภาษาอังกฤาและเทคนิคการสอนแบบต่าง ๆเพื่อนำมาปรับประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอนที่ข้าพเจ้าต้องกลับมาทำงานในโรงเรียน

จากการทำงานที่ North Coast Preparatory and Performing Arts Academy (NPA) ได้เรียนรู้ว่า ก่อนการทำงานใดๆจะมีการวางแผน และคำนึงถึงผลกระทบและการคุ้มค่าต่อการลงทุน เวลาและโอกาส

ก่อนที่โรงเรียนจะเปิด มีการประชุมวางแผนกันอย่างจริงจัง ประมาณ 3 วัน ทีแรกข้าพเจ้าก็ไม่เข้าใจว่าจะทำอย่างไร ประชุมตั้ง 3 วัน แต่เอาเข้าจริงๆแล้ว 3วัน แทบไม่พอเพราะครูทุกคนล้วนแต่มีข้อมูลที่อยากให้ต้องการพูดในงาน วิชาที่ตนเองสอน

เอาไว้คุยต่อตอนต่อไปนะคะ

อบรมการเขียน blog และ การใช้ google

วันนี้เป็นวันเสาร์ แต่ข้าพเจ้าก็มาอบรมที่ห้อง KM ห้องนี้คือแหล่งเรียนรู้ที่เราชอบมากเลย มี internet and computer

พูดถึง internet and computer นั้นมีความสำคัญและจำเป็นต่อการเรียนการสอนในปัจจุบัน พวกเราจะเห็นว่านั่นคือสิ่งที่มีประโยชน์มาก มีหลายwebsite ที่มีแผนการสอนหรือสื่อการสอนให้ Download เดี๋ยวมีเวลาว่างจะมาเติมบทความที่เคยเขียนไว้

เมื่อครั้งที่ข้าพเจ้าไปฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูที่ อเมริกาก็มีเวลาว่าง ได้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม เอาไว้ว่าจะมาเล่าและแบ่งปันประสบการณ์เพื่อประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับการศึกษาของประเทศไทยนะคะ

วันศุกร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2551

วันจันทร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2551

website ที่น่าสนใจ

ผู้เขียนได้รวม website ที่ชาวไกลบ้าน แนะนำให้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ

หมวดที่ 1: หมวด website เกี่ยวกับภาษา : แบ่งย่อยเป็น
- หมวด Dictionary คงไม่ต้องอธิบายอะไรมากมาย รวบรวม online dictionary มีหลายภาษา
- หมวดฝึก พูด อ่าน เขียน ภาษาอังกฤษ(และภาษาอื่นๆ)
ฝึก พูด อ่าน เขียน ภาษาต่างๆ เช่น อังกฤษ เยอรมัน ญี่ปุ่น
- หมวดอื่นๆ เว็บเกี่ยวกับภาษาอื่นๆ เช่นแปลภาษา / หา synonym, antonym

ทดสอบการสร้าง

วันนี้ได้ฝึกสร้างblog